เพชรเม็ดงามแห่งทะเลไทย ตอนที่ 1 ราทะเลชายฝั่ง “Aigialus”
Aigialus parvus, S. Schatz & Kohlm. (1986)
ราทะเลสกุล “Aigialus” เป็นชื่อในภาษากรีก แปลว่า “ชายฝั่ง” ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยที่พบราชนิดนี้เป็นครั้งแรก พบได้บนไม้ที่ย่อยสลายแล้วในระบบนิเวศทางทะเล เช่น ชายฝั่งและป่าโกงกางที่มีน้ำขึ้นน้ำลง ในปี 2006 ทีมวิจัยราทะเลของ NBT นำโดย ดร.สาทินี ซื่อตรง ค้นพบราชนิดนี้บนซากไม้ที่อยู่ในน้ำทะเล เมื่อทำการจัดจำแนกด้วยลักษณะทางสัณฐานวิทยา และ อนูชีวโมเลกุล พบว่าเป็น "Aigialus parvus, S. Schatz & Kohlm. (1986)" ราชนิดนี้จัดอยู่ในวงศ์ Aigialaceae (ไอ-จิ-เอ-ลา-ซี-อี่) ลำดับ Pleosporales และภายใต้ไฟลั่ม Ascomycota


ภาพแสดงพัฒนาการงานวิจัยของ ราทะเล Aigialus parvus ของ สวทช.
การค้นพบครั้งนี้นอกจากจะเป็นการค้นพบราที่สวยงามแล้ว ยังประสบความสำเร็จในการแยกเชื้อในห้องปฏิบัติการ โดยอาหารที่ใช้ต้องมีส่วนประกอบของน้ำทะเลเป็นองค์ประกอบ และด้วยความจำเพาะของเซลล์ของราทะเลบางประการที่ไม่พบในรากลุ่มอื่นๆ ส่งผลให้มีความสามารถในการสร้างสารเมตาบอไลท์ชนิดต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเองจากสภาพแวดล้อม และ เพื่อการดำรงชีวิตร่วมกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นในระบบนิเวศทางทะเล เมื่อวิเคราะห์บทบาทในระบบนิเวศ จึงพบว่า Aigialus parvus เป็นรากลุ่มย่อยสลากซากไม้ในระบบนิเวศชายฝั่งและป่าโกงกาง ดังนั้นจึงมีความสามารถในการผลิตเอนไซม์ย่อยสลาย เช่น โปรติเอส (protease) อะไมเลส (amylase) ไลเปส (lipase) เซลลูเลส (cellulase) ไซลาเนส (xylanase) และไคติเนส (chitinase) เป็นต้น (Raghukumar, 2008; Smitha et al., 2014) เพื่อย่อยสลายซากพืชที่มีองค์ประกอบของ ลิกนิน เซลลูโลส ลิกโนเซลลูโลส เป็นอาหาร และแปลงให้กลายเป็นสารอาหารและพลังงานส่งกลับคืนสู่ระบบนิเวศ
ราทะเล Aigialus parvus ได้รับความสนใจจากทีมวิจัยไบโอเทค ซึ่งค้นพบการสร้างสารเมตาบอไลท์ทุติยภูมิ Aigialomycin D, Aigialone, Aigialospirol มีฤทธิ์ทางชีวภาพ Anti-malaria (Isaka et al., 2002; Vongvilai et al., 2004) นอกจากนั้นยังพบว่าสารชีวภาพที่ได้จากราทะเลชนิดนี้สามารถยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของแบคทีเรียก่อโรคในสัตว์น้ำกลุ่มวิบริโอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการลดอัตราการตาย และลดการใช้ยาปฏิชีวนะในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Soowannayan, et al., 2019)
เอกสารอ้างอิง: